แบร์นาร์โด้ ซิลวา กลายเป็นฮีโร่ทำประตูชัยให้ แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ เชลซี 1-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ไปลุ้นป้องกันแชมป์
นาทีที่ 7 แมนฯ ซิตี้ ไปพลาดเสียบอลในแดนตัวเอง โคล พาลเมอร์ จ่ายไปให้ นิโกลัส แจ็คสัน แตะไปซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว สเตฟาน ออร์เตก้า
เรือใบ มีโอกาสทอง เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายคิลเลอร์พาสไปให้ ฟิล โฟเด้น หลุดไปแตะหลบ จอร์เจ เปโตรวิช ได้แล้ว แต่ก็ไม่มีมุมยิงเลยต้องเลือกเปิดกลับมา และเป็น กูกูเรย่า ที่มาโหม่งสกัดทิ้งก่อนที่บอลจะถูกเคลียร์ออกหลัง
เกือบครบครึ่งชั่วโมงแรก เชลซี น่าขึ้นนำเหลือเกิน เมื่อ นิโกลัส แจ็คสัน ได้หลุดเดี่ยวตั้งแต่เกือบกลางสนามแล้วลากไปแตะหลบ สเตฟาน ออร์เตก้า ทว่ากลับไม่ยอมยิง เลือกจ่ายย้อนกลับมาหวังให้เพื่อน แต่น้ำหนักไม่ดีเลยถูกแนวรับ ซิตี้ เตะสกัดทิ้งไป
นาทีที่ 37 สิงห์บลูส์ มีลุ้นอีกครั้ง เมื่อ โคล พาลเมอร์ โชว์สเต็ปเท้าลากหนี โรดรี้ เข้าไปเอี้ยวตัวแปด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ ออร์เตก้า ยังล้มตัวเซฟไว้ได้ ก่อนที่เพื่อนจะช่วยสกัดกันออกไป
ครึ่งหลัง เชลซี ได้โอกาสตั้งแต่นาทีที่ 47 เมื่อ เพื่อนคืนหลังไม่ดี ทำให้ ออร์เตก้า ต้องรีบเตะทิ้งออกมา เลยไปเข้าทาง โนนี่ มาดูเอเก้ เก็บได้แล้วลากตัดมาซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลข้ามคานออกไป
นาทีที่ 49 สิงห์บลูส์ น่าขึ้นนำอย่างเหลือเกิน เมื่อ กัลลาเกอร์ จ่ายให้ แจ็คสัน ได้หลุดเดี่ยวไปเลือกมุมยิง แต่ติดเซฟ ออร์เตก้า บอลยังไม่พ้นอันตราย โคล พาลเมอร์ ตามไปเก็บที่ฝั่งขวาแล้วเปิดย้อนกลับมาให้ แจ็คสัน ได้โหม่งจ่อๆ ที่เสาไกล ก็ยังไปติดเซฟ ออร์เตก้า แบบเหลือเชื่อ
นาทีที่ 53 เป็นโอกาสมอง แมนฯ ซิตี้ แจ็ค กรีลิช ลากจี้เข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วไหลให้ ฟิล โฟเด้น ตวัดยิงด้วยเท้าซ้ายทันที บอลจะเข้ามุมประตูอยู่แล้ว แต่ จอร์เจ เปโตรวิช ล้มตัวเซฟมือเดียวได้สุดยอด
นาทีที่ 55 เชลซี ไม่ได้จุดโทษอย่างน่าเหลือเชื่อ เมื่อ พาลเมอร์ ปั่นฟรีคิกไปโดนแขน กรีลิช ซึ่งยืนเป็นกำแพงแล้วแขนกางออกมา แต่วีเออาร์กลับไม่ให้จุดโทษ แถม สิงห์บลูส์ ก็ไม่ได้เตะมุมด้วย
แมนฯ ซิตี้ เองก็มีช่วงเวลาที่ขึงเกมบุกใส่อยู่เหมือนกัน นาทีที่ 70 เควิน เดอ บรอยน์ ได้วางเท้ายิงในเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาไกลออกไป
เรือใบ ได้โอกาสอีกครั้งจากการขึงบอลบุกอยู่พักใหญ่ มานูเอล อคานจี ได้ทะลุไปในเขตโทษด้านขวาแล้วจ่ายหักเข้ากลางให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ ซัดใต้บอลข้ามคานออกไปเลย
นาทีที่ 84 กลายเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่มาออกนำ 1-0 จนได้ เมื่อ โดกู ไหลให้ เดอ บรอยน์ หลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วเปิดยัดเข้ากลาง เปโตรวิช ใช้ขาสกัดออกมา แต่ไปเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ตั้งเท้าซ้ายยิง แม้ กูกูเรย่า จะพุ่งมาบล็อคได้เล็กน้อย แต่บอลก็ยังทะลุเข้าประตูไปอยู่ดี
จบเกม แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ เชลซี 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปลุ้นป้องกันแชมป์ รอพบกับผู้ชนะระหว่าง โคเวนทรี กับ แมนฯ ยูไนเต็ด
แมนฯ ซิตี้ : สเตฟาน ออร์เตก้า – ไคล์ วอล์คเกอร์, มานูเอล อคานจี, นาธาน อาเก้ – จอห์น สโตนส์, โรดรี้ เอร์นานเดซ – ฟิล โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช – ฮูเลียน อัลวาเรซ
เชลซี : จอร์เจ เปโตรวิช – มาโล กุสโต้, ติอาโก้ ซิลวา, เทรโวห์ ชาโลบาห์, มาร์ก กูกูเรย่า – มอยเสส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ – นิโกลัส แจ็คสัน
{{val.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
แก้ไขเมื่อ {{val.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
Quote
{{v.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
แก้ไขเมื่อ {{v.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
Quote
0 && !val.replys” ng-click=”content.event.get_reply(val);”>
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})
ต้า มั่นใจลูกเก๋าวิลเชียร์ไปได้สวยโค้ชชุดใหญ่ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
เมรีโน่ยอมรับปืนเคี่ยวหนักเรื่องเซตพีซ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
เอเมรี่เร้าวิลล่ากล้าฝันแชมป์รูปธรรม วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
ผีแดงยิ้มออกโยโร่เริ่มซ้อมเดี่ยว วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
ยอร์เกนเซ่นฟื้นคอนคัสชั่นคืนสิงห์ยูโรปาคอนฯ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
บอร์ดค้อนยังวางใจจูเลนแม้ออกตัวบู่ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567